...

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แต่งบ้านให้สวยด้วย ผ้าม่าน

decorating idea designบ้านแต่ละหลังในโครงการค่อนข้างน้อย การสร้างบ้านจะอยู่ในลักษณะชิดติดกัน ล้อมรั้วด้วยรั้วลักษณะโปร่ง ๆ ซึ่งบางครั้งทำให้ความเป็นส่วนตัว ของบ้านแต่ละหลังมักจะถูกรบกวนทางสายตาจากเพื่อนบ้านได้ ดังนั้นความจำเป็นและความสำคัญของม่านจึงเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นในในการตกแต่งบ้านปัจจุบันม่านได้รับการพัฒนาออกแบบให้มีความเหมาะสมและสวยงามเหมาะกับรูปแบบบ้านแต่ละหลังแต่ละสไตล์ ประโยชน์ใช้สอยของม่านนอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถช่วยกรองแสงสว่างจากธรรมชาติที่สาดส่องเข้ามาในห้องอันเป็นการช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านและนอกจากนี้ยังช่วยบทบังทัศนียภาพที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ
ผ้าม่านมีอยู่หลายแบบหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 แบบ คือ 1. แบบเคอร์เท่น ( CURTAIN ) คือการนำผ้าผืนใหญ่มาทบเป็นจีบร้อยเข้ากับห่วงกลม แล้วแขวนกับราวม่าน ใช้งานโดยการรูดปิด - เปิด สามารถเลือกลวดลายสีสันและชนิดของผ้าได้ไม่จำกัด
2. แบบไบล์น ( BLINDS ) คือม่านมีลักษณะแบบบังตา ทดมาเป็นชั้น ๆ ใช้งานโดยการชักขึ้น – ลง เช่น ม่านแบบโรมันไบล์น เป็นต้น นอกจากนี้ในปัจจุบันมีม่านอีกหลากหลายประเภทคือ ม่านปรับแสงมีลักษณะเป็นแผ่นม่านยาวนำมาเรียงต่อกัน มีทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน สามารถเปิดปิดและปรับองศาใบม่านเพื่อเปลี่ยนปริมาณการรับแสงได้สำหรับวัสดุที่ใช้ทำใบม่านอาจะทำจากผ้า,พลาสติก หรือแผ่นโลหะนอกจากนี้ยังมี มู่ลี่ ที่ทำจากไม้ไผ่ หวาย หรือผ้า แม้จะมีม่านในหลาย ๆ ลักษณะทั้งแบบผ้าและวัตถุอื่น ๆ แต่นักตกแต่งบ้านส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกม่านที่ทำจากผ้าเพราะนอกจากมีราคาย่อมเยาแล้วยังให้ความนุ่มนวลอ่อนโยนอีกด้วย

ข้อแนะนำในการเลือกผ้ามาทำเป็นม่านและเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับม่านมีดังนี้
- ควรเลือกใช้เนื้อผ้าที่มีคุณภาพดี เพื่อความคงทนต่อการรับแสงแดดในระยะยาวและควรเลือกผ้าม่านเนื้อหนาซึ่งจะมีความทนทานกว่าผ้าเนื้อบาง
- เส้นใยจำพวกโพลีเอสเตอร์และอะครีลิค ทนแดดได้ดีกว่า ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าลินินและไนลอน
- การใช้ผ้าม่านสองชั้นและผ้าม่านที่มีซับใน จะช่วยลดปัญหาผ้าสีจืดจางเพราะรังสียูวี ( uv ) ของแดดลงได้
- ควรซักผ้าม่านเพียงปีละครั้ง และใช้วิธีดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้งเป็นการทำความสะอาดแทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น